ล่าแสงเหนือ
ชมแสงเหนือช่วงไหนดี?
ประเทศไอซ์แลนด์สามาถเห็นแสงเหนือได้ถึงปีละ 8 เดือนคือตั้งแต่ประมาณต้นเดือนกันยายนไปจนถึงปลายเดือนเมษายน แสงเหนือตามหลักวิทยาศาสตร์คืออนุภาคของเคลื่อนที่เข้าสู่สนามแม่เหล็กของโลก ในบริเวณบรรยากาศชั้นบนและเกิดการแตกตัวเป็นไอออน และความเข้มของแสงจะขึ้นอยู่กับกิจกรรมของดวงอาทิตย์และการปรับเร่งความเร็วของอนุภาค.ธรรมชาติของสนามแม่เหล็กโลก แสงเหนือหรือแสงออโรรานี้จะปรากฏขึ้นเฉพาะแถบบริเวณขั้วโลกเท่านั้น คือบริเวณละติจูดตั้งแต่ 60 องศา เหนือขึ้นไปและตั้งแต่บริเวณละติจูด 60 องศา ใต้ลงไป (ซึ่งเรียกว่าแสงใต้หรือออโรรา ออสเตรลิส) ดังนั้นประเทศไอซ์แลนด์ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณละติจูด 64 องศาเหนือ ถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมมากสำหรับการเดินทางไปชมแสงเหนือ
เสน่ห์แสงเหนือ
เสน่ห์คือความงดงามพลิ้วไหวไปมาบนท้องฟ้า มีหลากหลายสีโดยมากจะเป็นสีเขียว บางครั้งก็เป็นสีม่วง สีแดง สีชมพู สีส้ม และสีน้ำเงิน ขึ้นอยู่กับชนิดของธาตุที่แตกตัวออกมา ที่ใครได้พบเห็นก็หลงไหลกันทุกคน
ความเชื่อสมัยก่อน
สมัยก่อนมีความเชื่อว่าแสงที่เห็นแตกต่างกันมาจากหลากหลายความเชื่อเช่นในตำนานนอร์สโบราณเชือว่าเป็นประกายจากเสื้อเกราะของวาลคิรี เทพธิดาในเทพปกรณัมนอร์สผู้มีหน้าที่คัดเลือกว่าใครจะอยู่หรือตายในสงครามและนำพาผู้ที่เสียชีวิตไปยังดินแดนหลังความตาย
ชนกลุ่มพื้นเมืองอเมริกันบางกลุ่มเชื่อว่าแสงเหล่านี้คือกลุ่มวิญญาณ ยิ่งแสงที่สว่างมากก็ยิ่งมีความสุขมากโข
ยุโรปยุคกลางเชื่อว่าแสงเหนือหรือแสงออโรรานี้คือลางบอกเหตุหรือสัญญาณเตือนถึงยุคมืดที่กำลังจะเกิดขึ้น
ทหารของฝ่ายสมาพันธรัฐถ้าเห็นแสงออโรราปรากฏบนท้องฟ้าในยุทธการที่เฟรเดอริกส์เบิร์ก พวกเขาเชื่อว่าจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น และเขาก็สู้รบอย่างเหี้ยมโหดจนชนะในสมรภูมิรบครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามโชคที่มากับแสงออโรราหรือแสงเหนือของเขาก็ไม่ได้ส่งผลดีไปตลอดระยะเวลาของสงคราม
ปัจจัยในการชมแสงเหนือ
การชมแสงเหนือนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆๆอย่าง เช่น เดือนกันยายน - เมษายน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม คืนนั้นต้องมืดที่สุด ช่วงพระจันทร์เต็มดวงจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งจากเมฆมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดี มีระยะเวลาพระอาทิตย์ยาวนานยิ่งเหมาะสมนัก การคาดการณ์จากพยากรณ์อากาศนั้นคาดเดาได้ยาก เพราะการคาดการณ์นั้นทำได้แค่ล่วงหน้าหนึ่งถึงสองวันเท่านั้น สิ่งนี้บางที่ก็ต้องใช้ดวงเสี่ยงร่วมด้วย
ไปชมแสงเหนือเมืองไหนดี?
สำหรับสถานที่ในการดูแสงเหนือแบบชัดๆ ให้เดินทางไปที่ฟยอร์ดทางตะวันตก (Westfjord) หรือทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ (North Iceland) ซึ่งแถบนั้นจะมีช่วงกลางคืนยาวนานกว่าจึงทำให้มีโอกาสเห็นแสงเหนือหรือออโรรา บอรีลิสมากกว่า หรือที่เรคยาวิกในฤดูหนาวหรือช่วงเหมายันจะมีช่วงกลางคืนที่ไร้แสงอาทิตย์นาน 20 ชั่วโมง ในขณะที่ทางแถบตอนเหนือสุดจะมืดมิดกันยาวนานถึงเกือบ 22 ชั่วโมงเลยทีเดียว
การตั้งแคมป์นอกเมืองที่ไอซ์แลนด์เป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนใจ ไปนอนชมดาวมากมายบนท้องฟ้า และยังมีโอกาสเห็นแสงเหนือมากขึ้นอีกด้วย